ดูดไขมัน “เหนียง”

     เหนียงย้อย คาง2ชั้น ปัญหาใหญ่ กวนใจใครหลายคน เพราะเจ้าไขมันที่มาเกาะแน่นตรงเหนียงนั้นนอกจากทำให้หน้าเราไม่สวย และยังหามุมถ่ายรูปได้ยากอีกด้วย หมดความมั่นใจกันไป เชื่อว่าหลายๆท่านก็คงเคยหาวิธีการลด “เหนียง” กันบ้างแล้วไม่ว่าจะเป็นการนวด ฉีดสลายไขมัน ร้อยไหม แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้เหนียงหายไปได้ดั่งใจสักที ตอนนี้หมดกังวลกันได้เลย กับนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ในการสลายไขมันพร้อมกระชับ ช่วยทำให้กรอบหน้าสวยคมชัด และลดสลายไขมันส่วนเกินบริเวณเหนียงได้เร็ว ผิวเรียบตึง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการพักฟื้นช้ำระบมเหมือนกับการทำศัลยกรรมอื่น เพราะ Neck Tite ทำให้เกิดแผลเล็กมาก เจ็บนิดเดียว และไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ

     NeckTite พัฒนามาจากเทคนิคการดูดไขมันพร้อมยกกระชับ โดยอาศัยหลักการทำงานของ RFAL ที่ช่วยในการสลายไขมัน ดูดไขมัน และทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเรียบตึงกระชับในคราวเดียวกันโดยไม่ต้องศัลยกรรม การดูดไขมัน ด้วย Neck Tite ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวหน้าตึงกระชับ มีความยืดหยุ่น ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น และยกกระชับความหย่อนคล้อยในบริเวณต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ

NeckTite ต่างจากการดูดไขมันแบบอื่นอย่างไร 

     • เป็นการดูดไขมันบริเวณ เหนียง โดยใช้เข็มที่เล็กเป็นพิเศษ ทำให้มีแผลเป็นที่เล็กมาก
     • รักษาเป็นการฉีดยาชาเฉพาะที่ จึงไม่มีอันตรายจากการดมยาสลบ
     • การฟื้นตัวเร็ว ไม่ต้องพักนาน
     • ให้ผลการรักษาที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูเป็นหน้าศัลยกรรม

Neck Tite เทคนิคใหม่แห่งการ “ดูดไขมันเหนียง” พร้อมยกกระชับ
• แผลเล็ก   • เจ็บน้อย   • ไม่ต้องพักฟื้น   • ไม่ต้องวางยาสลบ

NeckTite เหมาะกับใครบ้าง

     • ผู้ที่มี อายุ 20-50 ปี ยิ่งอายุน้อย ผลลัพธ์ก็จะยิ่งดี เนื่องจากมีการกระชับของผิวหนังที่ดีกว่า
     • มีคางสองชั้น (double chin) มีแก้มมาก แก้มห้อย กรอบหน้าไม่ชัด
     • ต้องการให้มีกรอบหน้า (Jawline) ที่ชัดขึ้น ทำให้ดูหน้าเรียวมากขึ้น
     • ผู้ที่มีระยะเวลาจำกัด และต้องการเห็นผลเร็ว
     • ผู้ที่ผ่านการรักษาด้วยวิธีอื่นมาแล้ว และไม่ได้ผล
     • ผู้ที่กลัวเจ็บ และไม่ต้องการใช้วิธีผ่าตัด


NeckTite มีขั้นตอนการทำยังไงบ้าง

ก่อนการเข้ารับการ ดูดไขมันเหนียงใต้คาง แพทย์จะทำการประเมินใบหน้าของผู้เข้ารับการรักษาก่อนว่าส่วนไหนควรที่จะดูดไขมันบริเวณใดบ้าง

1. แพทย์จะทำการประเมินไขมันที่สะสมของคนไข้ และวาดตำแหน่งที่จะต้องทำการดูดไขมัน

2. ทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะทำการดูดไขมัน เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมก่อนทำการดูดไขมันให้ปราศจากเชื้อต่างๆ

3. แพทย์จะทำการฉีดยาชาเฉพาะจุดก่อนทำการดูดไขมัน เพื่อลดความรู้สึกและความกังวลของคนไข้ขณะทำการรักษา

4. หลังจากที่ยาชาออกฤทธิ์แล้ว แพทย์จะทำการเปิดแผลเล็กๆ ประมาณ 0.1 – 0.3 mm ที่ผิว และทำการใส่สารละลายน้ำเกลือผสมยาชาเข้าไปในชั้นผิวเพื่อเตรียมสภาพผิวให้เหมาะกับการดูดไขมันด้วย Neck Tite

5. แพทย์ทำการสลายไขมันพร้อมกระชับผิวด้วย Neck Tite ขณะทำการรักษาคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บ ไม่จำเป็นต้องวางยาสลบระหว่างการรักษา

6. เมื่อไขมันสลายเป็นไขมันเหลว แพทย์ก็จะทำการดูดไขมันออกออกมาด้วยอุปกรณ์การดูดไขมัน

7. หลังทำคนไข้สามารถเดินทางกลับบ้านได้เลย เพราะแผลที่ทำการดูดไขมันมีขนาดเล็ก เจ็บ ระบมน้อย และควรใส่ผ้ารัดบริเวณที่ทำการดูดไขมันเพื่อให้การดูดไขมันมีประสิทธิ์ภาพมากยิ่งขึ้น

การเตรียมตัว “ก่อน” ดูดไขมันเหนียง 

 ศึกษาข้อมูลของการดูดไขมันเบื้องต้น เตรียมคำถามที่สงสัย เพื่อไปถามคุณหมอในวันที่เข้าไปปรึกษา
• เข้าปรึกษาแพทย์ ก่อนตัดสินใจรับการรักษา และควรเลือกรับบริการกับคลินิก ที่ได้รับมาตรฐาน และใบอนุญาตอย่างถูกต้อง
ควรงด !!  ยากลุ่ม แอสไพริน (ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด) และอาหารเสริมทุกชนิด ก่อนทำการดํูดไขมันเหนียง อย่างน้อย 1 สัปดาห์
ควรงด !! ดื่มแอลกอฮอล์ และ งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 สัปดาห์ ก่อนเข้ารับการดูดไขมัน
ควรแจ้ง !! ประวัติโรคประจำตัว ยาที่ใช้ประจำ และ ประวัติแพ้ยาให้แพทย์ทราบทุกครั้ง

แผลจากการดูดไขมันเหนียง ใหญ่ขนาดไหน ? 

การดูดไขมันเหนียง ด้วยNeck Tite ทำให้เกิดแผลเล็กมากๆ ประมาณ 0.1 – 0.3 mm เท่านั้น และแพทย์จะเลือกทำการเปิดแผลซ่อนในบริเวณใต้คาง หรือ หลังใบหู เพื่อที่จะไม่ทำให้เห็นรอยแผล หลังจากแผลแห้งสนิท ก็สามารถใช้ครีมลดรอยแผลเป็นได้เช่นกัน

การดูแลหลังดูดไขมันเหนียง 

หลังการดูดไขมันเหนียง ด้วย Neck Tite  สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ อาจมีอาการบวมเขียวช้ำได้ประมาณ 2 สัปดาห์ โดยไม่ส่งผลกับการใช้ชีวิตประจำวัน อาการบวมเขียวช้ำ จะลดลงภายในสัปดาห์ที่ 3 ตามลำดับ
     • หลีกเลี่ยง !!   ไม่ควรให้แผลเปียกชื้น หากแผลเปียกน้ำควรซับให้แห้ง จนกว่าแผลจะแห้งสนิท
     • ควรงด !!  การดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้เกิดการบวมและแผลหายช้ากว่าปกติ
     • ควรใส่ !!  ผ้ายืดรัดบริเวณคาง อย่างน้อยประมาณ 1 สัปดาห์
     • ควร !!   ทานยาให้ครบตามที่แพทย์จ่ายให้ และกลับมาพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง

 NeckTite ต้องรักษากี่ครั้งจึงจะเห็นผล?

การดูดไขมันเหนียง Neck Tite ทำเพียงครั้งเดียวก็สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ค่อนข้างชัดเจน โดยไม่ทิ้งร่องรอยแผลขนาดใหญ่ไว้กวนใจ  และยังทำให้ผิวบริเวณที่ทำการดูดไขมัน กระชับในครั้งเดียว ไม่จำเป็นต้องมาทำคอร์สกระชับหลังทำการดูดไขมัน